ผู้ใช้งาน 77 ราย

ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

"การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร" กรมส่งเสริมการเกษตร

-----------------------------------------------------------------------------------------

ดาวน์โหลดในรูปแบบ PDF

1. บทนำ

        กรมส่งเสริมการเกษตร โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ต่อไปนี้จะเรียกว่า กสก.) เป็นหน่วยงานของรัฐในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียน มีบทบาทหน้าที่ในการรับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรตามระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร เกี่ยวกับการประกอบกิจการในด้านการเกษตร พ.ศ. 2567 ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น เพื่อให้การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ในการดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร มีความมั่นคง ปลอดภัย น่าเชื่อถือ เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงได้จัดทำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว “การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร” เพื่อถือเป็นหลักการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้

2. คำนิยาม

       - กสก. หมายถึง กรมส่งเสริมการเกษตร โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
       - ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ - สกุล ที่อยู่ เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
       - ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีความเสี่ยงต่อการถูกเลือกปฏิบัติ อย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น
       - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
       - เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ กสก. เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
       - ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
       - ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

       การเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
              1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กสก. เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในขั้นตอนการแจ้งขอขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
              2) อาจทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และนำไปผนวกเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ กสก. ได้รับมาจากแหล่งอื่น เฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพ และประสิทธิภาพการให้บริการของ กสก. ให้ดียิ่งขึ้น
              3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่ กสก. เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการ เพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่ กสก. มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดการให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึง จากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่ กสก.
              นอกจากนี้ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่ กสก. ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายประกาศนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบ โดยรวมถึงกรณีผู้เยาว์ให้แจ้งผู้ใช้อำนาจทางปกครองที่มีอำนาจกระทำแทนผู้เยาว์ทราบด้วย
              ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการแจ้งขอขึ้นทะเบียน และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร อาจเป็นผลให้ กสก. ไม่สามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

4. ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

       ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ กสก. ใช้ ประกอบด้วย
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล
รายละเอียด
    เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐที่ กสก. ได้รับ     เพื่อให้ กสก. สามารถใช้อำนาจรัฐและดำเนินภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะตามกฎหมาย ได้แก่ ระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเกี่ยวกับการประกอบกิจการ ในด้านการเกษตร พ.ศ. 2567 รวมถึง กฎ ระเบียบ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
    เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย     เพื่อให้ กสก. สามารถปฏิบัติตามกฎหมายที่ควบคุม กสก. ได้แก่ - พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 รวมถึงการดำเนินการตามคำสั่งศาล
    เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย     เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ กสก. และของบุคคลอื่น ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจการภายในของ กสก. เป็นต้น
    เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติที่สำคัญ     เพื่อให้ กสก. สามารถจัดทำหรือสนับสนุนการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัย หรือสถิติ ตามที่ กสก. อาจได้รับมอบหมาย เช่น การจัดทำสถิติของการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เป็นต้น
    ความยินยอมของท่าน     เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณี ที่ กสก. จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โดยได้มีการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการขอความยินยอมแล้ว เช่น การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ด้วยวัตถุประสงค์ ที่ไม่เป็นไปตามข้อยกเว้น มาตรา 24 หรือ 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เป็นต้น

       ในกรณีที่ กสก. มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามขั้นตอน การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือคัดค้าน การดำเนินการ อาจมีผลทำให้ กสก. ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

5. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

       กสก. อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล
รายละเอียดและตัวอย่าง
    ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล     ข้อมูลที่ระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากเอกสารราชการ ที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ลายมือชื่อ เลขประจำตัวประชาชน สัญชาติ ข้อมูลทะเบียนบ้าน เป็นต้น
    ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล     ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่าน เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ อายุ ข้อมูลสถานภาพการสมรส (โสด หม้าย หย่า รวมถึงแยกกันอยู่) รูปถ่าย อาชีพ การศึกษา รายได้ หนี้สิน เป็นต้น
    ข้อมูลสำหรับการติดต่อ     ข้อมูลเพื่อการติดต่อท่าน เช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ที่ติดต่อได้ อีเมล เป็นต้น
    ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของ กสก.     รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ กสก. เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน (เว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของ กสก. เช่น https://efarmer.doae.go.th หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ) ประวัติการสืบค้นคุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน หมายเลขอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทอุปกรณ์ รายละเอียดการเชื่อมต่อ ข้อมูลเบราว์เซอร์ ภาษาที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น
    ข้อมูลเชิงเทคนิค     ข้อมูลที่เกี่ยวกับการสื่อสารผ่านเครือข่ายที่ต้องจัดเก็บตามกฎหมาย หรือนโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัย เช่น คุกกี้ (Cookies) หมายเลขไอพี (IP Address ) Mac Address Token ID เพื่อการเข้าใช้ระบบชั่วคราว Client ID/Secret (บัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน) ประวัติจราจรทางคอมพิวเตอร์ของท่านเมื่อเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ กสก. โดยกรมกำหนดให้มีการบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ของ กสก. (Log Files) เป็นต้น
    ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม     ข้อมูลความสัมพันธ์ทางสังคมของท่าน เช่น สมาชิกองค์กร เป็นต้น

6. คุกกี้

       กสก. เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ https://efarmer.doae.go.th เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของ กสก. และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น

7. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

       กสก. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
              1) จัดเก็บข้อมูลเกษตรกรที่ประกอบการเกษตรและผังแปลงการเพาะปลูก เป็นฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้มีความครบถ้วน เป็นปัจจุบัน ตามความสมัครใจ โดย กสก จะทำการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูลด้วยการติดประกาศในชุมชน และ/หรือ การประชาคม
              2) นำข้อมูลจากฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่ได้รับการปรับปรุง ผ่านการตรวจสอบทางสังคม และการตรวจสอบพื้นที่มาวิเคราะห์ประมวลผลในภาพรวมของประเทศให้ถูกต้อง
              3) สามารถนำข้อมูลจากฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่ประมวลผลแล้วไปเผยแพร่ บูรณาการ
และเชื่อมโยงข้อมูลสำหรับใช้ประโยชน์ได้ทั่วไปทั้งภาครัฐและเอกชน
              4) เพื่อใช้ประกอบการจัดทำฐานข้อมูล ประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูลสถิติผู้ให้บริการทางการเกษตรแบบครบวงจร และเผยแพร่บนแพลตฟอร์มระบบผู้ให้บริการทางการเกษตร ระบบบริการข้อมูลเครื่องจักรกลทางการเกษตร หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับให้เกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปที่ต้องการใช้บริการเครื่องจักรกลและงานบริการด้านเกษตร
              5) เพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเผาในพื้นที่เกษตรหรือร่องรอยพื้นที่เผาไหม้ (Burn Scar) ในพื้นที่เกษตร ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM 2.5) ภาคการเกษตร
              6) เพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งผลิตของผลผลิตทางการเกษตร (Traceability)
              7) เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวกับท่าน
              8) จัดทำบันทึกรายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
              9) จัดเตรียมเอกสารทางประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะ การค้นคว้าวิจัย หรือจัดทำสถิติ ที่ กสก. ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ
              10)เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของท่าน เช่น รายงานผล การขึ้นทะเบียนเกษตรกร เป็นต้น
              11) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของ กสก. หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ กสก. เช่น โครงการและมาตรการของภาครัฐ โครงการประกันภัยพืชผล การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช เป็นต้น
              12) การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลเมื่อท่านสมัครใช้บริการของ กสก. หรือติดต่อ ใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
              13) ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้ทันสมัย
              14) การประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
              15) ส่งการแจ้งเตือน การยืนยันการทำคำสั่ง ติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังท่าน
              16) เพื่อจัดทำและส่งมอบเอกสารหรือข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็น
              17) ยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม (Spam) หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
              18) ตรวจสอบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงและใช้บริการของ กสก. อย่างไร ทั้งในภาพรวม และรายบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการค้นคว้า และการวิเคราะห์
              19) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่ กสก. มีต่อหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุม การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของ กสก.
              20) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะของ กสก. หรือของบุคคลอื่น หรือของนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของ กสก.

8. ประเภทบุคคลหรือหน่วยงานที่ กสก. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

       ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในข้อ 7 ข้างต้น กสก. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้
ประเภทบุคคลหรือหน่วยงานผู้รับข้อมูล
รายละเอียด
    หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่ กสก. ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์อื่น เช่น การดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ เป็นต้น     หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือมีอำนาจควบคุมดูแลหรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่น คณะรัฐมนตรี สำนักงานตำรวจ ศาล สำนักงานอัยการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น
    คู่สัญญาซึ่งดำเนินงานเกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกร     บุคคลภายนอกที่ กสก. จัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินงานเกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกร
    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่ กสก. ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ     หน่วยงานที่ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายภายใต้มติคณะรัฐมนตรีเพื่อใช้ข้อมูลของท่านไปประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการมาตรการของรัฐ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สมาคมประกันวินาศภัยไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วยอึ๊งภากรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น

9. ระยะเวลาในการเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคล

       กสก. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและเอกสารที่เกี่ยวข้องของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนี้ ยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว กสก. จะทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบข้อมูลส่วนบุคคล ที่คณะกรรมการหรือกฎหมายได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กสก. ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

10. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง

       กสก. อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ กสก. ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น เป็นต้น
       การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น กสก. จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ กสก. ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และของบุคคลที่ กสก. มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ กสก. มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของ กสก. เท่านั้น โดยไม่สามารถประมวลผล เพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
       ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล กสก. จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่าง กสก. กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

11. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

       กสก. มีมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะราย หรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว ตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของ กสก. อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล ที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดย กสก. มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กร หรือเชิงเทคนิคตามมาตรฐานสากลและเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
       นอกจากนี้ เมื่อ กสก. มีการส่งโอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม เพื่อการดำเนินการ ตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์อื่น กสก. จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคล ที่เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยเสมอ

12. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก

       บริการของ กสก. อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการ ดังกล่าว อาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ กสก.ขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบ ในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ กสก. ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม

13. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

       พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ หลายประการ ทั้งนี้ สิทธิดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อกฎหมายในส่วนของสิทธินี้มีผลใช้บังคับ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
              1) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ กสก. เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่ กสก. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
              2) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของตนไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
              3) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ กสก. ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้ จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
              4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านในกรณีดังต่อไปนี้
                  ก) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กสก. ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
                  ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบ ด้วยกฎหมาย
                  ค) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ ตามวัตถุประสงค์ที่ กสก. ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้ กสก. เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไป เพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
                  ง) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กสก. กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
              5) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เว้นแต่กรณีที่ กสก. มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น กสก. สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ กสก. เป็นต้น
              6) สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ กสก. ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้น จะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้) ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดย กสก. เว้นแต่ มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้ กสก. จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไป
              7) สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก กสก. ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ

14. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

       การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามเกณฑ์ของ กสก. (สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของ กสก.) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่ท่านมีต่อ กสก. และอาจได้รับโทษตามที่กำหนด โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลำดับรอง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง

15. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล

       ในกรณีที่ท่านพบว่า กสก. มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียน ไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว กสก. ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายัง กสก. เพื่อให้ กสก. มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก

16. การปรับปรุงแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

       ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้อาจพิจารณาปรับปรุง หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ทราบโดยการประกาศที่เว็บไซต์ http://farmer.doae.go.th/privacynotice โดยระบุวันที่ มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับกำกับอยู่

17. ช่องทางการติดต่อ

       หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมส่งเสริมการเกษตร เลขที่ 2143/1 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หมายเลขโทรศัพท์ 02-955-1642 ,02-955-1640 อีเมล ict23@doae.go.th หรือติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน/เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก



© 2012 กรมส่งเสริมการเกษตร -- Department of Agricultural Extension